แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังอยู่ระหว่างการลุ้นคว้าทริปเปิลแชมป์ในฤดูกาลนี้ ภายหลังยังเกาะตำแหน่งหัวหน้าฝูงของพรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้อย่างแน่น
โดยที่ผลงานในฟุตบอลยุโรปก็ค่อนข้างจะไปได้สวย หลังทะลุมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างสบายเท้าในการเจอกับ สปอร์ติง ลิสบอน แต่ว่าจะมาหนักหน่อยก็ตรงเอฟเอ คัพ เพราะลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องพบกับ ลิเวอร์พูล ที่มีลุ้นคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็แล้วแต่ โปรแกรมช่วงต้นเมษายนอาจทำให้แฟนๆเรือใบสีฟ้าเห็นภาพได้ชัดเจนเพิ่มขึ้นว่าในที่สุดแล้วทีมรักของตนจะจบลงด้วยการมีถ้วยรางวัลติดมือกี่ใบกันแน่
เพราะตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ม.ย. หลังเบรกทีมชาติไปจนกระทั่ง 16 ม.ย. ขุนพลซิตี้จำเป็นที่จะต้องลงเล่นถึง 4 เกมระหว่างนั้น
ซึ่งครบทุกรายการการชิงชัย ไล่มาตั้งแต่การพบกับ แอตเลติโก มาดริด ในเลกแรก ตามมาด้วยวันที่ 10 กับ ลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ลีกที่สำคัญอย่างมากจนกระทั่งมาถึงวันที่ 13 กับเลกที่สองของเกมกับทีพตราหมี รวมทั้งจบสิ้นในอีก 3 วันต่อมาในรอบรองชนะเลิศรายการที่เก่าแก่ที่สุดของฟุตบอลอังกฤษ กับ ลิเวอร์พูล อีกเกม
ยากที่บอกจริงๆว่าเกมไหนสำคัญกว่ากัน เพราะ คล็อปป์ เองก็มีโปรแกรมที่แน่นขนัดไม่แพ้ของ กวาร์ดิโอลา เลย แถมถ้าหากเขาสามารถนำลูกทีมมาเก็บ 3 แต้มที่เอติฮัด สเตเดียม ได้สำเร็จ ก็จะเป็นการดึงตำแหน่งหัวหน้าฝูงมาเป็นของตัวเองได้อีกด้วย